ชนชั้นมนุษย์ ชนชั้นสุนัข สุนัขสวยคืออะไร
สวัสดีค่ะ
บทความนี้ ดิฉันพรทิพย์ ปริมิตร เจ้าของ www.สุนัขไทยหลังอาน.com โทร.0871763192 Line ID:porntip9119 เขียนขึ้นมาจากการหาข้อมูลและเลี้ยงดูสุนัขมาหลายสิบปี ค่ะ เป็นภาพรวมกว้างๆ เท่านั้นนะคะ ท่านใดอยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับ หมาๆ แมวๆ โทรมาคุยกัน หรือ ไลน์ มาก็ได้ ค่ะ ยินดีแลกเปลี่ยนความรู้ค่ะ

ชนชั้นมนุษย์ กับชนชั้นสุนัข
ชนชั้น เกิดขึ้นตามธรรมชาติของมนุษย์ เชื่อกันว่า บางคนเกิดมา นิสัยขยันมากๆ ก็มีโอกาสรวยกว่าคนที่ นิสัยขี้เกียจ คนชอบนอนอยู่บ้าน บางคนเกิดมา นิสัย ชอบเสี่ยง ชอบลุย ชอบลงทุน ไม่กลัวเจ๊ง เขาก็รวยขึ้นมาได้จริงๆ เพราะ เสี่ยงเยอะ ค่าตอบแทนมักจะเยอะ และ รวยกว่าคนที่ชอบรับจ้าง ชอบงานมั่นคง เงินเดือนน้อยๆ ยากจนก็ไม่เป็นไร ค่อยๆเก็บ ค่อยๆออม บางคนก็เกิดมา พ่อแม่รวย ก็รวยสืบต่อจากพ่อแม่ บางคนก็เกิดมายากจน แถมยังนิสัยขี้เกียจ อีก ก็ยากจนต่อไป เป็นต้น

ในเมื่อธรรมชาติของมนุษย์ สร้างให้คนแตกต่างกัน ทั้ง สมอง รูปโฉม ความขยัน ความชอบเสี่ยง ฐานะพ่อแม่ โอกาสได้คู่ครองที่ยากจนหรือ ร่ำรวย และ ดวงชะตาส่วนตัว บางคนเฮงๆ บางคนดวงตก อยู่เรื่อย เป็นต้น

สังคมโบราณที่สุดของมนุษย์ คือ สังคมเกษตรกรรม เลี้ยงสัตว์ ก็มีชนชั้น เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีผู้นำหมู่บ้าน มีพ่อค้า นายทุน มีชนชั้นแรงงาน มีกรรมกร มีขอทาน มีคนพิการ กันอยู่นานแล้ว

ต่อมาเข้าสู่ยุคอุดมการณ์ความเท่าเทียม เช่น ยุคที่อุดมการณ์คอมมิวนิสต์ เฟื่องฟู คือ ไม่มีใครรวย ไม่มีใครยากจนกว่าใคร ทุกคนทำงานตามที่รัฐบาลสั่ง และ ได้ของกินของใช้ตามที่รัฐบาลให้ เหมือนๆกัน เท่าๆกัน หากใครค้าขายหากำไรเข้าตัว ถือว่าผิดกฎหมายรุนแรง แต่ในที่สุด อุดมการณ์ความเท่าเทียมก็ล่มสลายลง แม้ความเท่าเทียมจะดูดี สวยงาม น่ายกย่อง แต่ทางปฎิบัติไปไม่รอดเพราะ ทุกคนรู้ว่าไม่ทำงานก็ได้กินได้ใช้เท่าเดิม และเท่ากันกับคนอื่น คนในสังคมเลยทำงานน้อยลง ผลผลิตของรัฐก็ลดลงเรื่อยๆ จนไม่พอกินพอใช้ในที่สุด โซเวียส ก็ล่มสลาย โลกเลยเข้าสู้ยุคแห่งความเหลื่อมล้ำ ต่ำสูง อย่างเต็มตัว

ต่อมา เมื่อคนรวยก็รวยสุดๆ คนจนก็ยากจนสุดๆ จึงเกิดระบบภาษีเพื่อสวัสดิการขึ้น วัตถุประสงค์ของภาษีสมัยใหม่ ก็ คือ ให้คนรวยเยอะ จ่ายภาษีเยอะๆ รัฐก็เอาเงินภาษี ที่ได้จากคนรวยไปช่วยคนจน เช่น ลูกคนจนเรียนฟรี กินฟรี รักษาพยาบาลฟรีเป็นต้น ถ้าไม่มีกฎหมายบังคนเอาเงินจากคนรวย คนจนก็ตายอย่างเขียด สังเกตไหมคะ โครงการรัฐบาล ทั้งหมด ทำถนน ทำโรงพยาบาล โรงเรียก จ้างข้าราชการ ใช้เงินภาษีทั้งสิ้น และคนจนก็เข้าไป ใช้บริการเหล่านี้ ฟรีๆ หรือ ราคาถูก ลองดูโรงเรียนเอกชน โรงพยาบาลเอกชน ทางด่วนเอกชน สิคะ ราคาแพงหูฉี่ ถ้าไม่มีบริการจากรัฐบาล คนจน ตายอย่างเขียดค่ะ
ป่วยฉุกเฉิน โรงพยาบาลเอกใช้ เฮลิคอปเตอร์มารับ บริการโรงพยาบาลรัฐเทียบไม่ติดฝุ่น

เราเรียกง่ายๆ ว่าเราเข้าสู่ยุค ทุนนิยม คือ มีแต่ธุรกิจใหญ่ๆ นายทุนรวยๆ มือใครยาวสาวได้สาวเอา ใครบ้าขยันผลิต จะไม่นอนเลย ผลิตทั้งวันทั้งคืนให้ตายไปข้างหนึ่งแลกกับความรวยสุดๆ ก็ ไม่ว่ากัน แต่คนยากจนก็ยังมีเยอะอยู่ และ เป็นรัฐสวัสดิการ คือ ใครรวยได้รวยไป แต่ต้องจ่ายภาษีเยอะๆ นะคะ เพื่อรัฐจะเอาเอามาช่วยเหลือคนจน ให้มีกิน มีใช้ ได้เรียน บ้าง ก็คือ การลดความเหลื่อมล่ำ ต่ำสูง แบบสุดโต่งนั้นเอง ค่ะ คนตกงาน คนขี้เกียจ คนขยันน้อย คนซวยทำอะไรก็เจ็ง คนเกิดมามีพ่อแม่ยากจน กลุ่มคนจนทั้งหลายก็มีช่องทางได้รับบริการจากสังคมบ้าง ผ่านยี่ห้อของ รัฐบาล แม้จะบริการห่วยๆ ช้าๆ หมกบ้าง ดองงานบ้าง ข้าราชการพูดจาหยาบคาย โรงพยาบาล คิวนานโคตรๆ โรงเรียนรัฐ ครูไม่เก่งเทพ ก็ดีกว่าไป ใช้บริการเอกชน แพงหูฉี่ ใช่ไหมคะ
โรงพยาบาลรัฐ มาเช้า ได้ตรวจบ่าย ก็ไม่เป็นไร เพราะไม่กล้าเข้าโรงพยาบาลเอกชน แพงหูฉี่

แล้วมันเกี่ยวอะไร กับสุนัขไทยหลังอาน คะ
เพราะ วงการสุนัขไทยหลังอาน ก็กำลังต่อสู้ในเรื่องอุดมการณ์ไม่ต่างจากคน ก็เรื่อง เหลื่อมล้ำ ต่ำสูง น่ะค่ะ
คือ มันเริ่มตั้งแต่ มีการจดทะเบียนสุนัขไทยหลังอานเป็นสุนัขพันธุ์แท้ของโลก แล้วก็มีการจัดประกวดสุนัขสวยงาม แล้วก็มีสุนัขที่ชนะเลิศการประกวดในที่สุด และ ลูกหลานของแชมป์เปี้ยนก็จะมีราคาแพงหูฉี่ และ กลายเป็น สุนัขที่สวยกว่า จริงกว่า แท้กว่า สุนัขโนเนม ในที่สุด


เมื่อสุนัขมีแชมป์มากขึ้นเลยเกิดชนชั้น สุนัขไทยหลังอานสายเลือดแชมป์ ขึ้นมา คลิ๊กที่นี่ และการขายลูกสุนัข ก็เกิดการโฆษณาว่า นี่คือ ลูกแห่งไทยแชมป์ ขึ้นมาด้วย
ช่วงนั้น สุนัขไทยหลังอานเริ่มเปิดให้ชาวบ้านเอาสุนัขตัวเอง ที่ว่าเป็นพันธุ์แท้ มาขึ้นทะเบียน ออกบัตรประชาชนสุนัข ที่เรีัยกว่า ใบเพ็ดดีกรี ก็เกิดสุนัขชนชั้นใหม่ขึ้นมาอีก เรียกว่า สุนัขไทยหลังอานมีใบเพ็ด

คลิ๊กที่นี่ การขายลูกสุนัข ก็ต้องบอกว่า มีใบเพ็ดดีกรี ด้วย เพราะ แฝงด้วย นัยยะ อ้อมๆ ฟาร์มตัวเองมีคุณภาพกว่าสุนัขไม่มีใบเพ็ดดีกรี คงเพราะ ว่ามีที่มาที่ไปสุนัข ไม่เป็นพันธุ์ผสมแน่นอน
และ มียี่ห้อฟาร์ม ประกันคุณภาพในใบเพ็ด (ซึ่งก็ไม่แน่เพราะ ใบเพ็ดจริง แต่ฟาร์มแจ้งเท็จ มีเยอะ, และ ใบเพ็ดปลอมสดๆ เลยก็เยอะมาก)
สุนัขที่ตกสำรวจ ตัวสุนัขนั้นแท้ๆ สวยๆ อีกจำนวนมาก ไม่ได้แจ้งเป็นพันธุ์แท้ เพราะ เจ้าของสุนัขไม่สนใจก็ดี หรือ ไม่เห็นความสำคัญของการจดทะเบียนก็ดี มีลูกออกมาก็ ไม่มีทะเบียน ไม่มีใบเพ็ดดีกรี ตามพ่อแม่ของสุนัข ไปด้วย ก็เกิดเป็นชนชั้น ไม่มีใบเพ็ดดีกรี

กำเนิดชนชั้นสุนัข
แต่จากประสบการณ์ส่วนตัวของ ดิฉัน ลูกสุนัขสายเลือดแชมป์เปี้ยน ลูกสุนัขมีใบเพ็ดดีกรี ลูกสุนัขไทยหลังอานแท้ไม่มีใบเพ็ดดีกรี คุณภาพไม่ต่างกันเท่าใดนัก ถ้าลูกสุนัขเกิดจากฟาร์มคุณภาพ ไม่ผสมมั่วจนเกินไป ไม่พิการ ลูกสุนัขทุกแห่งหน ก็มีสวยๆกันเยอะ และมีขี้เหล่บ้าง ก็ปะปนกันไปเป็นธรรมดา ที่ว่าลูกไทยแชมป์จะสวยสดวิเศษ ทุกตัว ก็เป็นการโฆษณาชวนเชื่อ เพื่อให้ผู้ซื้อภาคภูมิใจ เท่านั้น
ในขณะที่ความสวย ไม่ต่างกันมาก แต่ ราคา มันต่างกันราวฟ้า กับเหว ก็เพราะ เป็นสุนัขมีชนชั้น สุนัขมีชนชั้นขึ้นมา เวทีประกวดยุคแรกๆ ตอนแรกก็บอกว่า เราพัฒนาให้มันสวย มันดูดี หัวหางฟัน ขา หลัง ลำตัว อก อัณฑะ มันสวยดีเลิศ คัดลักษณะด้อยออกไป แต่สิบปีผ่านไป สุนัขเริ่มถูกพัฒนามาสูสีกันมากขึ้น กล่าวคือ มันไม่ทิ้งกันขาดลอย พวกที่ขี้เหร่ๆ ก็ปรับปรุงให้สวยงามแล้ว เวทีประกวด ก็ออกกติกาใหม่ ให้เข้มงวดขึ้นไปอีก เราจึงมักได้ยินคำว่า เส้นหลัง มุมขา ฟันชิด อานสมดุล ลิ้นดำ เล็บดำ หางได้องศา อกลึก ดิฉันว่า มันเกินกว่าเรื่องพัฒนาสุนัขไทยหลังอานแล้วค่ะ มันชักจะเป็นเรื่อง นามธรรม กฎที่ล่องรอย กีดกันทางการค้าแล้ว เพราะ ลูกสุนัขไทยแชมป์ ราคาแพงหูฉี่ ก็ต้องออกกติกาตีกันเอาไว้ เพื่อให้ ขาใหญ่ได้เป็นไทยแชมป์ต่อไป เพราะหมามีลักษณะตามที่กติกากำหนด อยู่แต่เพียงผู้เดียว ทั้งการให้คะแนนสุนัขในเวทีประกวด ยังใช้ระบบคอนเนคชั่น อีกด้วย โอ้โห ชงเอง กินเอง เลยค่ะ ฟาร์มเล็กๆ ฟาร์มโนเนม อย่างได้หวัง แต่จะมาขึ้นเวทีในฐานะไม้ประดับก็ได้

ชนชั้นของสุนัขเกิดจากมนุษย์เป็นผู้สร้างขึ้นมา ด้วยเหตุผลทางการตลาด การโฆษณา การตั้งราคา เพราะสุนัขแชมป์ไทย ไปเจอสุนัขบ้านนอกคอกนา ตัวหมามันก็ไม่รู้ว่าใครสวยกว่าใคร ตามประสาหมาๆ
ถ้าสุนัขไทยหลังอาน มีชนชั้นทางทะเบียน ก็ไม่เท่าไหร่ และถ้ามันจะราคาต่างกันเพราะคุณภาพ ต่างกันก็ไม่แปลก เพราะผู้ซื้อ ย่อมมีเหตุผลที่ยอมจ่ายแพง
แต่ในตลาดขายสุนัขไทยหลังอาน ในวงการฟาร์มสุนัขด้วยกัน รู้สึกว่าจะ ปฏิเสธสุนัขไทยหลังอานที่ไม่มีใบเพ็ดดีกรีกันอยู่มาก ก็อย่างที่กล่าวไปแล้ว ว่าสุนัขไทยหลังอานสมัยนี้ พัฒนากันมาเยอะ และ สวยพอๆกันแล้ว พวกที่พิการ ขาเขี้ยว ได้ถูกกำจัดออกไปจากวงการนานแล้ว และ ผู้ซ์้อเขาไม่ซีเรียสเลยว่า จะมีใบเพ็ดดีกรีไหม ส่วนใหญ่ไว้ใจฟาร์มและเอาไปเลี้ยงเฝ้าบ้าน เท่านั้น
ฟาร์มหมาใหญ่ๆ ชอบใช้ คำพูดที่ว่า พวกไม่มีใบเพ็ดดีกรี คือ พวกไม่ตั้งใจพัฒนาสุนัข และ ไปที่ไหนก็ต้องผลักดันกฎ “ที่นี่ห้ามขายสุนัขไทยหลังอานที่ไม่มีใบเพ็ดดีกรี” คือ มองสุนัขไม่มีใบเพ็ดดีกรี เหมือน เราเห็นคนป่า คนต่างด้าวเชื้อชาติด้อยกว่า น่ะค่ะ คือ ไม่ยอมรับ ดิฉันยืนยันว่า สุนัขไม่มีใบเพ็ดดีกรี สวยไม่ต่างจากมีใบเพ็ดค่ะ และ ลูกค้า เขาไม่แคร์เรื่องใบเพ็ดเท่าไรนัก (เขาแคร์ราคา และ การได้เห็นตัวพ่อแม่สุนัขมากกว่า) ความคิดแบบนี้ พบกันมากในเฟสบุค กลุ่มสุนัขไทยหลังอานต่างๆ ดิฉันไม่ออกความเห็นว่าใครผิดใครถูก นะคะ แต่เจอบ่อยขึ้นทุกวัน
กลายเป็นว่า ฟาร์มไหนทำใบเพ็ดดีกรีได้ ก็พยายามตีกันไม่ให้พวกสุนัขไม่มีใบเพ็ดดีกรีมาประกาศขาย ทั้งที่ความงามของสุนัข ก็พอๆกัน และลูกค้าเขาไม่ซีเรียสว่าจะมีใบเพ็ดไหม
ส่วนพวกสุนัขไม่มีใบเพ็ดก็อ้างความ เท่าเทียม ว่าสุนัขทุกตัวแท้ และ สวย คนทำฟาร์มตั้งใจ จริงจังในการพัฒนาสายพันธุ์ ไม่ควรกีดกันการขาย ดิฉันเห็นว่า จริงนะคะ สุนัขจะสวยไม่สวย ไม่ได้ขึ้นกับใบเพ็ดดีกรี และ จะมีใบเพ็ดหรือไม่ คนที่จำเป็นต้องรู้คือ ผู้ซื้อนะคะ ไม่ใช่ฟาร์มใหญ่ๆ และ ทุกวันนี้สุนัขก็สวยพอๆกันแล้ว
บางคนอ้างว่า หมาฝรั่งมีใบเพ็ดดีกรี เลยควบคุมประชากรสุนัข สวัสดิการสุนัขได้ ส่งออกสุนัขได้ง่าย ก็อยากให้หมาไทย เลียนแบบเขาบ้าง อันนี้ก็หวังให้หมาไทย โกอินเตอร์ น่ะค่ะ เหมือนไปดูงานที่ยุโรป แล้วเอามาปรับปรุงหมาไทย
ดิฉันว่าถ้ามีทะเบียนก็โอเคค่ะ ก็มีประโยชน์อยู่เยอะ แต่ทำไมสุนัขที่จะได้รับใบเพ็ดดีกรี ถึงยากลำบาก เช่น ต้องเป็นสมาชิกสมาคมสุนัข มีค่ารายปี มีค่าจดทะเบียนตัวละกี่บาท ถ้ารักหมาไทยจริงก็ต้องเปิดกว้างกว่านี้นะคะ
เราต้องยอมรับ ว่าผู้ซื้อเขามีที่ไม่แคร์เรื่องสุนัขไทยจะโกอินเตอร์หรือไม่ จะมีใบเพ็ดหรือไม่ เขาต้องการสุนัขสวยๆสักตัว ในราคาที่เขามีงบประมาณ เท่านั้น
แต่การบอกว่า ที่นี่ห้ามขายสุนัขไม่มีใบเพ็ด ก็ยัง งงๆ อยู่ว่าเกี่ยวอะไร การพัฒนาสุนัข ดิฉันว่า การพัฒนาสุนัข ก็ควรไปคุยกันที่เวทีประกวด ไปคุยกันที่สมาคมสุนัข หาแนวทางให้สุนัขไทยหลังอานทุกตัวมีทะเบียน แต่ถ้ามาห้ามกันในเวทีสาธารณะ มีใบเพ็ดขายได้ ไม่มีใบเพ็ดห้ามขาย อันนี้ ไม่แฟร์ต่อฟาร์มไม่มีใบเพ็ด นะคะ มันกีดกันทางการค้า กำจัดฟาร์มไม่มีใบเพ็ดออกไป ซะมากกว่า และ สนองความพอใจส่วนตัวขาใหญ่
ตลาดขายหมา ควรให้คนซื้อคนขายได้คุยกันเอง ทั้งใบเพ็ดและราคา ไม่ใช่เรื่องที่ฟาร์มหมาใหญ่ๆจะมากำหนด

สรุปแล้ว
1 ชนชั้นของมนุษย์ ไม่ว่าจะกี่ร้อยปี กี่พันปีมันก็คงอยู่ เพราะมันเป็นธรรมชาติ
2 มนุษย์ก็เอาชนชั้นของคน ใครดีกว่าเด่นกว่า แข่งขันชนะยิ่งกว่า มาจัดอันดับสุนัขด้วย กลายเป็นชนชั้นสุนัขขึ้นมา ดิฉันก็เห็นว่าเป็นธรรมชาติ อยู่นะคะ
3 คุณภาพสุนัข ยี่ห้อฟาร์ม กลายเป็นที่มาของราคาสุนัขขึ้นมา มีโฆษณา ลูกแชมป์ ลูกหมามีใบเพ็ด ลูกหมาไม่มีใบเพ็ด ลูกหมามีสังกัด ลูกหมาโนเนม ราคาต่างกันทั้งสิ้น ก็เป็นธรรมชาติ ทางธุรกิจ
4 แต่ที่ขาใหญ่ ออกกฎประกาศขายสุนัขขึ้นมา และ ออกกฎกำหนดความสวยของสุนัขที่จุกจิกอย่างมาก นั้น ทำไปเพื่ออะไรคะ
ขาใหญ่ วงการสุนัข มักจะ พูดว่า มุ่งมั่นพัฒนาให้มันสวย สร้างหมาให้ มุมขาสวย เส้นหลังสวย ฟันชิดสวย หางงอ ได้องศาสวยพอดี ดิฉัน งง นะคะ ว่ามันจะสวยได้ยังไง ความสวยของสุนัขในเวทีประกวดรู้สึกว่า จะนามธรรมมากๆ จริงๆแล้ว ความสวยของหมา มันแค่ สุขภาพดี ร่างกายสมบูรณ์ ไม่อ้วนเกิน ไม่ผอมเกิน ขนสวย ไม่มีโรค ฉลาด ไม่ดุร้าย ฟังคำสั่งได้ ก็น่าจะพอแล้วไม่ใช่หรือคะ ถ้าจะลงลึกก่านี้ ก็อาจจะแค่ ฟันสวย หูสวย บ้างนิดหน่อย ค่ะ
สรุปแล้ว เวทีประกวดสมัยนี้ เต็มไปด้วยกติกาอวัยวะสุนัขจุกจิกพวกนี้ และ กฎในตลาดขายสุนัขออนไล์ ที่ว่า ที่นี่ห้ามขายสุนัขไม่มีใบเพ็ด ล้วนแต่เป็นเรื่องผลประโยชน์ และ ผู้ออกกติกาก็ล้วนเป็นขาใหญ่ ทั้งสิ้นค่ะ

ใครคิดได้เยอะๆ มาคุยกันนะคะ