0871763192 ฟาร์มสุนัขพันธุ์เล็ก เกรดสวย ส่งฟรีทั่วไทย ประกันโรค15วัน บีเกิ้ล ชิวาวา ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน ชิสุ ยอร์คเชีย ไซบีเรียนฮัสกี้ โกลเด้น ลาบาดอร์

0871763192 Line ID :porntip9119
ฟาร์มสุนัขพันธุ์เล็ก เกรดสวย ส่งฟรีทั่วไทย ประกันโรค15วัน
บีเกิ้ล ชิวาวา ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน ชิสุ ยอร์คเชีย ไซบีเรียนฮัสกี้ โกลเด้น ลาบาดอร์
คุณพรทิพย์ ปริมิตร นอกจากจะอนุรักษ์สุนัขไทยหลังอาน สายเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้แล้ว ใน พ.ศ.2549 ทำฟาร์มสุนัขสายพันธุ์ยุโรป-จีน ร่วมสมัยขึ้นมาด้วย ได้แก่ สุนัขพันธุ์บีเกิ้ล ชิวาวา ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน ชิสุ ยอร์คเชีย ไซบีเรียนฮัสกี้ โกลเด้น ลาบาดอร์ หลายปีที่ผ่านมา คุณพรทิพย์ ได้คัดสรรสุนัขสายพันธุ์ยุโรป-จีน เกรดระดับสวยงาม ไว้หลายตัว และแบ่งขายลูกสุนัขตามโอกาส ซึ่งแต่ละปีจะผสมลูกสุนัขไม่เกิน สองครั้ง เพราะเน้นคุณภาพ ลูกสุนัขจึงออกมาสวยเด่น สมส่วน น่ารักที่สุด และแบ่งจำหน่ายในราคากันเอง

แผนที่บ้าน
แผนที่บ้าน
พรทิพย์ฟาร์มสุนัขเชียงราย
พรทิพย์ฟาร์มสุนัขเชียงราย

shih-tzu-for-adoption-285 beagle-picture-127 pug

 

 

court) หรือศาลสงฆ์ประเภทหนึ่งในยอร์ก[a] และภรรยา อีดิธ[b] บิดามารดาของฟาร์มซื้อขายลูกสุนัขน้องหมาพันธุ์เล็กเป็นสมาชิกคริสตจักรแห่งอังกฤษเช่นเดียวกับปู่ย่า ย่าเขาซึ่งมีชื่อเมื่อเกิดว่า เอลเลน แฮร์ริงตัน เป็นธิดาพ่อค้าคนสำคัญที่ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองยอร์กในปี ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ล536[4] ทว่า ครอบครัวของมารดาเป็นคาทอลิกที่ไม่เข้าร่วมกิจการของคริสตจักรแห่งอังกฤษ (recusant) และลูกพี่ลูกน้อง ริชาร์ด คาวลิง บวชเป็นบาทหลวงคณะเยสุอิต[5]

คริสต์ศาสนิกชนสามวัน จึงเป็นไปได้ว่าเขาเกิดวันที่ ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ล3 เมษายน[5] ในปี ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ล568 อีดิธให้กำเนิดธิดาคนหนึ่งชื่อแอนน์ แต่ทารกเสียชีวิตเมื่ออายุได้ราวเจ็ดสัปดาห์คือในเดือนพฤศจิฟาร์มซื้อขายลูกสุนัขน้องหมาพันธุ์เล็กนปีเดียวกัน เธอคลอดบุตรอีกสองคนหลังจากฟาร์มซื้อขายลูกสุนัขน้องหมาพันธุ์เล็ก ได้แก่ แอนน์

ปีให้หลังมารดาสมรสใหม่กับเดนิส เบย์นบริดจ์ (Denis Baynbridge) ผู้นับถือคาทอลิกชาวบ้านสกอตตัน เขตแฮร์โรเกต ฟอกส์อาจเปลี่ยนมานับถือคาทอลิกตามความนิยมเรคิวซันซีของตระกูลเบย์นบริดจ์ และตามสายคาทอลิกของตระกูลพุลลีน (Pulleyn) และเพอร์ซีแห่งบ้านสกอตตัน[8] รวมทั้งจากสมัยที่เขาเรียนที่โรงเรียนเซนต์ปีเตอส์ในเมืองยอร์ก ผู้ว่าการโรงเรียนนี้รับโทษจำคุก 20 ปีฐานเรคิวซันซี ส่วนครูใหญ่ จอห์น พุลลีน มาจากตระกูลนักเรคิวซันซีที่สำคัญ คือ ตระกูลพุลลีนแห่งบ้านบลับเบอร์เฮาซิส (Blubberhouses) ในหนังสือ เดอะพุลลีนส์ออฟยอร์กเชอร์ (The Pulleynes of Yorkshire) งานปี ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ล9ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ล5 ผู้ประพันธ์ แคเธอริน พุลลีน เสนอว่า การศึกษาคาทอลิกของฟอกส์มาจากญาติฝั่งแฮร์ริงตันของเขา ซึ่งทราบกันว่าให้ที่ซ่อนเร้นแก่นักบวชผู้กระทำความผิด นักบวชหนึ่งในนั้นภายหลังเดินทางกับฟอกส์ไปฟลานเดอส์ในปี ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ล592–ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ล593 ด้วย[9] ศิษย์ของฟอกส์มีจอห์น ไรต์ และน้องชาย คริสโตเฟอร์ (ต่อมาทั้งคู่เข้าร่วมกับฟอกส์ในแผนดินปืน) และออสวัลด์ เทซิมอนด์

, ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ลst Viscount Montagu) เขาไม่ชอบฟอกส์และปลดเขาในไม่ช้า ต่อมา แอนโทนี-มารีอา บราวน์ ไวเคานต์มอนทากิวที่ 2 (Anthony-Maria Browne, 2nd Viscount Montagu) ซึ่งสืบยศจากปู่ด้วยวัย ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ล8 ปี จ้างเขาใหม่[ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ลชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ล] มีอย่างน้อยหนึ่ง

ดัตช์ (และฝรั่งเศสตั้งแต่ปี ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ล595 จนมีการทำสนธิสัญญาแวร์แว็งในปี ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ล598) แม้อังกฤษมิได้เข้าร่วมในปฏิบัติการภาคพื้นดินต่อสเปนในเวลานั้น แต่ทั้งสองประเทศยังอยู่ในภาวะสงคราม และเหตุการณ์อาร์มาดาสเปน ค.ศ. ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ล588 เพิ่งผ่านไปได้ห้าปี เขาเข้าร่วมกับเซอร์วิลเลียม สแตนลีย์ ชาวอังกฤษคาทอลิกและผู้บังคับบัญชาผ่านศึกในวัยห้าสิบกลาง ๆ ผู้สร้างกองทัพในไอร์แลนด์เพื่อต่อสู้ในกองทหารของเลสเตอร์ที่ส่งไปปฏิบัติการนอกประเทศในเนเธอร์แลนด์ สแตนลีย์เคยได้รับการยกย่องจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ล แต่หลังจากที่เขายอมสละเมืองเดเฟินเตอร์ให้สเปนในปี ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ล587 เขาและทหารส่วนใหญ่ก็เปลี่ยนฝ่ายไปรับใช้สเปน ฟอกส์กลายเป็นอัลเฟเรซ (alférez) หรือนายทหารผู้น้อย ซึ่งสู้รบอย่างดีในการล้อมเมืองกาแลในปี ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ล596 และเมื่อถึงปี ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ล603 ก็ได้รับการเสนอเลื่อนยศเป็นร้อยเอก[3] ในปีนั้น เขาเดินทางไปสเปนเพื่อแสวงหาการสนับสนุนแก่กบฏคาทอลิกในอังกฤษ ในโอกาสนั้นเขาได้ใช้ชื่อตัวว่า “กวีโด” (Guido) ซึ่งเป็นชื่อเขาในภาษาอิตาลี และบรรยายพระเจ้าเจมส์ที่ ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ล ในบันทึกของเขาว่าเป็น “คนนอกศาสนา” ผู้ทรงเจตนา “ขับทั้งนิฟาร์มซื้อขายลูกสุนัขน้องหมาพันธุ์เล็กสันตะปาปาออกจากอังกฤษ” เขาประณามสกอตแลนด์และผู้ที่พระมหากษัตริย์โปรดในบรรดาอภิชนชาวสกอต โดยเขียนว่า “การปรองดอง

ว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ล604 ฟอกส์เข้าไปเกี่ยวข้องกับกลุ่มคาทอลิกอังกฤษขนาดเล็กซึ่งนำโดยรอเบิร์ต เคตส์บี เคตส์บีวางแผนลอบปลงพระชนม์พระเจ้าเจมส์ที่ ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ล ซึ่งทรงถือโปรเตสแตนต์ แล้วยกพระธิดา คือ เจ้าหญิงเอลิซาเบธ ซึ่งอยู่ในลำดับสามของลำดับการสืบราชสันตติวงศ์ ขึ้นครองราชย์แทน[ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ล5][ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ล6] ออสวัลด์ เทซิมอนด์ นักบวชคณะเยสุอิตและอดีตเพื่อนสมัยเรียน อธิบายฟอกส์ว่า “น่าเข้าหาและมีท่าทีร่าเริง ไม่เห็นด้วยกับการทะเลาะและความขัดแย้ง … ซื่อสัตย์ต่อเพื่อน ๆ ของเขา” เทซิมอนด์ยังอ้างว่าฟอกส์เป็น “ชายผู้มีทักษะสูงในกิจการสงคราม” และอ้างว่า การผสมระหว่างความศรัทธาในศาสนากับความเป็นมืออาชีพนี้เองที่ทำให้ผู้คบคิดคนอื่น ๆ รักใคร่เขา[3] ผู้ประพันธ์ แอนโทเนีย เฟรเซอร์ (Antonia Fraser) บรรยายฟอกส์ว่าเป็น “ชายกำยำ ร่างสูง มี

 ไรต์ ก่อนหน้านี้แล้วว่าจะปลงพระชนม์พระมหากษัตริย์และรัฐบาลของพระองค์โดยระเบิด “ทำเนียบรัฐสภาด้วยดินปืน” วินเทอร์ซึ่งตอนแรกคัดค้านแผนนี้ถูกเคตส์บีเกลี้ยกล่อมให้เดินทางไปยุโรปแผ่นดินใหญ่เพื่อแสวงความช่วยเหลือ วินเทอร์เข้าพบกับผู้บัญชาการกองทัพแห่งกัสติยา (สเปน), ฮิว โอเวน (Hugh Owen) สายลับชาวเวลส์ที่ถูกเนรเทศ[ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ล8] และเซอร์วิลเลียม สแตนลีย์ ซึ่งบอกว่าเคตส์บีจะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากสเปน อย่างไรก็ตาม โอเวนได้แนะนำวินเทอร์ให้รู้จักฟอกส์ซึ่งในขณะนั้นอยู่นอกประเทศอังกฤษมาหลายปี ฉะนั้นจึงแทบไม่เป็นที่รู้จักในประเทศ วินเทอร์และฟอกส์มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ทั้งคู่เป็นนักรบและมีประสบการณ์ตรงจากการที่ชาวสเปนไม่เต็มใจช่วยเหลือ วินเทอร์บอกฟอกส์ถึงแผน “ทำการบางอย่างในอังกฤษหากสันติภาพกับสเปนไม่เอื้อต่อพวกเรา” (doe some whatt in Ingland if the pece with Spaine healped us nott)[3] และฉะนั้น ในเดือนเมษายน ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ล604 ทั้งสองจึง

 ทำให้สามารถเข้าถึงบ้านหลังหนึ่งในกรุงลอนดอนซึ่งเป็นของจอห์น วินเนียร์ด (John Whynniard) ผู้ดูแลเสื้อผ้าของพระมหากษัตริย์ ฟอกส์รับตำแหน่งรักษาการ และเริ่มใช้นามแฝงว่าจอห์น จอห์นสัน คนรับใช้ของเพอร์ซี[20] บันทึกการฟ้องคดีอาญาร่วมสมัย (มาจากคำสารภาพของทอมัส วินเทอร์)[2ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ล] อ้างว่า กลุ่มผู้คบคิดพยายามขุดอุโมงค์จากใต้บ้านวินเนียร์ดไปยังรัฐสภา แต่รัฐบาลอาจสร้างเรื่องนี้ขึ้นมาเอง เพราะการฟ้องคดีอาญานี้ไม่มีหลักฐานว่ามีอุโมงค์ดังกล่าวอยู่ และไม่พบร่องรอยอุโมงค์ที่ว่า ตัวฟอกส์เองไม่ยอมรับว่ามีแผนการดังกล่าวกระทั่งการสอบสวนครั้งที่ห้า แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่สามารถระบุได้ว่าอุโมงค์อยู่ตรงจุดไหน[22] อย่างไรก็ตาม หากเรื่องนี้เป็นความจริง เมื่อถึงเดือนธันวาคม ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ล604 ผู้คบคิดก็กำลังง่วนขุดอุโมงค์จากบ้านเช่าไปยังสภาขุนนาง พวกเขาหยุดเมื่อได้ยินเสียง

การเก็บซ่อนดินปืนที่ผู้คบคิดวางแผนสะสมไว้ ตามที่ฟอกส์เปิดเผย ตอนแรกมีการนำดินปืนมา 20 ถัง และอีก ชิวาว่า ปั๊ก ปอม

ข้ามทะเลและแจ้งแผนของผู้คบคิดแก่ฮิว โอเวน[26] ณ ช่วงใดช่วงหนึ่งระหว่างการเดินทางนี้ ชื่อของเขาก็เข้าไปอยู่ในแฟ้มของรอเบิร์ต เซซิล เอิร์ลที่ ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ล แห่งซอลส์บรี (Robert Cecil, ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ลst Earl of Salisbury) ซึ่งมีเครือข่ายสายลับอยู่ทั่วทวีปยุโรป สายลับคนหนึ่ง ร้อยเอก วิลเลียม เทอร์เนอร์ อาจเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าข้อมูลที่เขาให้แก่ซอลส์บรีโดยปกติจะไม่ได้มีอะไรมากไปกว่ารายงานการรุกรานที่มีรูปแบบคลุมเครือ และไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับแผนดินปืนเลย แต่ในวันที่ 2ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ล เมษายน เขาก็เล่าว่าเทซิมอนด์จะนำฟอกส์กลับไปยังประเทศอังกฤษด้วยวิธีการใด ฟอกส์เป็นทหารรับจ้างชาวเฟลมิช (Flemish) ที่เป็นที่รู้จักกันดี และจะถูกแนะนำตัวต่อ “นายเคตส์บี” และ “บรรดามิตรผู้มีเกียรติของขุนนางและคนอื่น ๆ ที่จะเตรียมอาวุธและม้าไว้ให้พร้อม”[27] อย่างไรก็ตาม

เมื่อเขาและวินเทอร์พบว่าดินปืนที่สะสมไว้ในห้องใต้ดินเสื่อมไปแล้ว มีการนำดินปืนเข้ามาในห้องเพิ่มเติม ร่วมกับไม้ฟืนเพื่ออำพราง[29] มีการกำหนดบทบาทสุดท้ายของฟอกส์ในแผนนี้ระหว่างการประชุมหลายครั้งในเดือนตุลาคม เขาจะเป็นผู้จุดชนวนแล้วหลบหนีข้ามแม่น้ำเทมส์ ในเวลาเดียวกันนั้น การก่อการกำเริบในมิดแลนส์จะช่วยให้มีการคุมตัวเจ้าหญิงเอลิซาเบธ การ

 ในเย็นวันที่ 26 ตุลาคม ลอร์ดมอนทีเกิล (Lord Monteagle) ได้รับจดหมายนิรนามเตือนให้เขาอยู่ห่าง ๆ และ “กลับคฤหาสน์ชนบทของท่านไปเสีย ณ ที่นั้นท่านจะปลอดภัย เพราะ … พวกเขาจะโดนระเบิดอย่างร้ายแรงในรัฐสภาแห่งนี้” (retyre youre self into yowre contee whence yow maye expect the event in safti for … they shall receyve a terrible blowe this parleament)[32] แม้ว่ากลุ่มผู้คบคิดจะทราบเรื่องจดหมายอย่างรวดเร็ว (เพราะคนรับใช้คนหนึ่งของมอนทีเกิลเป็นผู้แจ้ง) แต่พวกเขาก็ตัดสินใจดำเนินแผนการต่อไป เพราะเห็นว่า “ทุกคนเชื่ออย่างไม่มีข้อสงสัยว่าเป็นข่าวลวง”[33] ฟอกส์ตรวจห้องใต้ดินเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม และรายงานว่าไม่มีสิ่งใดถูกรบกวน ทว่ามอนทีเกิลรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลจึงแสดงจดหมายฉบับนั้นต่อพระเจ้าเจมส์ พระองค์มีพระราชดำรัสสั่งให้เซอร์ทอมัส นิเวต (Thomas Knyvet) ค้นห้องใต้ดินใต้รัฐสภา ซึ่งเขาดำเนินการในช่วงกลางดึกของเช้าวันที่ 5 พฤศจิฟาร์มซื้อขายลูกสุนัขน้องหมาพันธุ์เล็กน ฟอกส์เข้าประจำตำแหน่งสายเมื่อคืนก่อน[34] มีไม้ขีดไฟเผาไหม้ช้าและนาฬิกาข้อมือที่เพอร์ซีให้เขาไว้ติดตัว “เพราะเขาควรรู้ว่าเวลาผ่านไปอย่างไร”

เจตนาของเขาคือ “เพื่อระเบิดพวกมึงขอทานสกอตกลับภูเขาบ้านเกิดของมึงไงล่ะ”[37] เขาระบุตนว่าเป็นคนคาทอลิกวัย 36 ปีจากเนเธอร์เดล (Netherdale) ในยอร์กเชอร์ และบอกว่าบิดาชื่อทอมัส ส่วนมารดาชื่ออีดิธ แจ็กสัน เมื่อผู้สอบสวนสังเกตเห็นบาดแผลบนร่างฟาร์มซื้อขายลูกสุนัขน้องหมาพันธุ์เล็ก เขาก็อธิบายว่าเป็นผลมาจากเยื่อหุ้มปอดอักเสบ ฟอกส์ยอมรับว่าเขาเจตนาระเบิดสภาขุนนางและแสดงความเสียใจที่แผนล้มเหลว กิริยาอาการเด็ดเดี่ยวของเขาทำให้พระเจ้าเจมส์ทรงชื่นชม

สัน” ให้แฉชื่อผู้ร่วมคบคิด[39] พระองค์มีพระราชดำรัสสั่งให้ทรมานแต่น้อยก่อน คือหมายถึงใช้กุญแจมือ แต่ให้รุนแรงขึ้นถ้าจำเป็น โดยมีพระบรมราชานุญาตให้ใช้เครื่องทรมานดึงแขนขา (rack)[36][40] ฟอกส์ถูกย้ายมายังหอคอยลอนดอน พระเจ้าเจมส์ทรงร่างรายการคำถามต่าง ๆ ที่จะถาม “จอห์นสัน” เช่น “เกี่ยวกับสิ่งที่เขาเป็น เพราะฉันยังไม่เคยได้ยินว่ามีผู้ใดรู้จักเขา”,

เวด (William Wade) รองผู้บัญชาการหอคอยลอนดอน (Lieutenant of the Tower) เป็นผู้ควบคุมการทรมานและได้คำสารภาพของฟอกส์[36] เขาค้นตัวฟอกส์และพบจดหมายจ่าหน้าถึงฟาร์มซื้อขายลูกสุนัขน้องหมาพันธุ์เล็ก ฟอกส์ เวดประหลาดใจที่ “จอห์นสัน” ยังนิ่งเงียบ ไม่เปิดเผยแผนหรือผู้ริเริ่มแผนเลย[43] ในคืนวันที่ 6 พฤศจิฟาร์มซื้อขายลูกสุนัขน้องหมาพันธุ์เล็กน เขาพูดกับเวดซึ่งรายงานต่อซอลส์บรีว่า “เขา [จอห์นสัน] บอกพวกเราว่า ตั้งแต่เขาเริ่มดำเนินการนี้ เขาก็สวดภาวนาต่อพระเป็นเจ้าทุกวันว่าเขาจะกระทำการเช่นนั้นเพื่อความก้าวหน้าของคาทอลิกและเพื่อคุ้มครองวิญญาณของเขาเอง” เวดเล่า

 พฤศจิฟาร์มซื้อขายลูกสุนัขน้องหมาพันธุ์เล็กน และบอกผู้สอบสวนเขาว่ามีห้าคนเกี่ยวข้องในแผนปลงพระชนม์พระมหากษัตริย์ เขาเริ่มเผยชื่อในวันที่ 8 พฤศจิฟาร์มซื้อขายลูกสุนัขน้องหมาพันธุ์เล็กน และบอกว่าพวกเขาตั้งใจยกเจ้าหญิงเอลิซาเบธขึ้นครองบัลลังก์อย่างไร คำสารภาพที่สามของเขาในวันที่ 9 พฤศจิฟาร์มซื้อขายลูกสุนัขน้องหมาพันธุ์เล็กน พาดพิงฟรานซิส เทรชัม หลังเหตุการณ์แผนรีดอลฟี (Ridolfi plot) ในปี ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ล57ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ล นักโทษถูกบังคับให้บอกเขียนคำสารภาพของเขาเองก่อนคัดลอกและลงลายมือชื่อ หากยังสามารถเขียนได้[46]

ที่นั่น พวกเขาถูกแสดงบนตะแลงแกงที่สร้างขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เฉพาะ พระมหากษัตริย์และพระญาติใกล้ชิดทอดพระเนตรอย่างลับ ๆ อยู่ท่ามกลางบรรดาผู้ชมระหว่างที่กรรมการที่โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง (Lords Commissioners) อ่านรายการข้อ

ไม่ต้องสงสัย คณะลูกขุนวินิจฉัยว่าจำเลยทั้งหมดมีความผิด และประธานศาลสูงสุด (Lord Chief Justice) เซอร์จอห์น พอพัม (John Popham) ประกาศให้พวกเขามีความผิดฐานกบฏต่อแผ่นดิน[50] อัยการสูงสุด เซอร์เอดเวิร์ด คุก กล่าวต่อศาลว่า ผู้ถูกพิพากษาลงโทษจะถูกม้าลากถอยหลังจนตาย โดยปล่อยศีรษะเรียดพื้น พวกเขาจะถูก “ประหารชีวิตครึ่งทางระหว่างสวรรค์กับโลกเพราะไม่คู่ควรแก่ทั้งสอง” อวัยวะเพศจะถูกตัดและเผาซึ่งหน้า และลำไส้และหัวใจจะถูกนำออก แล้วพวกเขาจะถูกตัดศีรษะ และชิ้นส่วนร่างฟาร์มซื้อขายลูกสุนัขน้องหมาพันธุ์เล็กที่ถูกตัดออกจะถูกปล่อยทิ้งไว้เพื่อให้เป็น “เหยื่อแก่นกในอากาศ”[5ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ล] มีการอ่านออกเสียงคำให้การของฟอกส์และเทรชัมเกี่ยวกับกบฏสเปน ตลอดจนคำสารภาพที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกับแผนดินปืน หลักฐานชิ้นสุดท้ายที่นำมาอ่านคือบทสนทนาระหว่างฟอกส์กับวินเทอร์ซึ่งก่อน

ที่เวสต์มินสเตอร์ ตรงข้ามกับอาคารที่พวกเขาพยายามทำลาย[53] ผู้ร่วมคบคิดของเขาถูกแขวนคอและผ่าสี่ ฟอกส์เป็นคนสุดท้ายที่ยืนบนตะแลงแกง เขาทูลขออภัยโทษจากพระมหากษัตริย์และรัฐ ขณะที่ยังคง “ทำเครื่องหมายกางเขนและพิธีกรรมไร้สาระ” ฟอกส์เริ่มปีนบันไดสู่บ่วงอย่างอ่อนแรงจากการถูกทรมานโดยมีเพชฌฆาตแขวนคอคอยพยุง แต่ไม่ว่าจะมาจากการกระโดดลงมาตายหรือจากการปีนสูงเกินไปเพื่อให้เชือกจัดไม่ถูกต้อง เขาก็สามารถเลี่ยงความเจ็บปวดจากการประหารขั้นตอนหลังไปได้เพราะคอหักเสียชีวิตทันที[36][54][55] กระนั้น ร่างไร้วิญญาณของเขาก็ถูกผ่าสี่[56] แล้วตามจารีตประเพณี[57]

เฉลิมฉลองการที่พระมหากษัตริย์ทรงรอดการลอบปลงพระชนม์ได้ด้วยการจุดกองไฟ “โดยให้ ‘หลักฐานของความสุขสันต์นี้เป็นไปโดยระวังไม่ให้มีอันตรายหรือความวุ่นวายใด ๆ’ อยู่เสมอ”[3] มีพระราชบัญญัติกำหนดให้วันที่ 5 พฤศจิฟาร์มซื้อขายลูกสุนัขน้องหมาพันธุ์เล็กนของทุกปีเป็นวันขอบคุณสำหรับ “วันแคล้วคลาดสุขสันต์” และมีผลใช้บังคับจนถึงปี ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอ

 ฟอกส์, วันฟาร์มซื้อขายลูกสุนัขน้องหมาพันธุ์เล็ก ฟอกส์, คืนแห่งแผน (Plot Night)[6ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ล] และคืนแห่งกองไฟ ซึ่งชื่อสุดท้ายนี้สามารถย้อนความเป็นมาไปได้ถึงการเฉลิมฉลองดั้งเดิมในวันที่ 5 พฤศจิฟาร์มซื้อขายลูกสุนัขน้องหมาพันธุ์เล็กน ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ล605[62] มีการจุดกองไฟร่วมกับดอกไม้ไฟตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ล650 เป็นต้นมา และการเผาหุ่นจำลอง (ปกติจะเป็นพระสันตะปาปา) ก็กลายเป็นธรรมเนียมตั้งแต่ปี ชิวาว่า ปั๊ก ปอมเมอเรเนียน บีเกิ้ล673 เมื่อทายาทโดยสันนิษฐาน เจมส์ ดุ๊กแห่งยอร์ก แพร่การเข้ารีตเป็นคาทอลิกของเขา[3] หุ่นจำลองของบุคคลสำคัญคนอื่น ๆ ที่กลายเป็นเป้าความโกรธเกรี้ยวของสาธารณชน (เช่น พอล ครูเกอร์, มาร์กาเรต แทตเชอร์) ก็ถูกนำไปเผาเช่นกัน[63] แต่หุ่นจำลองสมัยใหม่ส่วนมากเป็นหุ่นฟอกส์[59] ปกติเด็ก ๆ สร้างหุ่น “ฟาร์มซื้อขายลูกสุนัข